วิธีการเพิ่มHGH


ปัจจุบันแม้เราจะทราบคุณประโยชน์ของโกรทฮอร์โมน แต่วิธีการสรรหาโกรทฮอร์โมนฉีดเข้าไปในร่างกายยังคงเป็นเรื่องยุ่งยาก
ซับซ้อนเกินกว่าคนทั่วไปจะปฏิบัติได้ ขณะเดียวกันยังคงเป็นเรื่องที่หมิ่นเหม่ต่อศีลธรรมและกฎหมายหากเราจะสกัดโกรทฮอร์โมน
จากร่างกายมนุษย์คนหนึ่งและนำไปเติมให้อีกคนหนึ่ง เดิมทีมีความพยายามนำต่อมพิทูอิทารี่จากศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้วเพื่อนำ
มาสกัดเอาโกรทฮอร์โมนออกมาเก็บรักษาไว้ก่อนที่แพทย์จะนำไปฉีดเข้าสู่ร่างกายผู้ต้องการรักษาวิธีการเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดความวิตกว่าจะเกิดผลกระทบในมุมกว้างหากความต้องการโกรทฮอร์โมนขยายตัวมากจนกลายเป็นธุรกิจการแพทย์เต็มตัว เพราะราคาค่างวดการฉีดโกรทฮอร์โมนนี้สูงมากครั้งละหลายหมื่นบาท คงจะเกิดการละเมิดศพ ทำให้ผู้ป่วยบางคนไม่สมควรตายต้องกลายเป็นศพ จนรัฐบาลบางประเทศต้องออกกฎหมายระงับการนำโกรทฮอร์โมนจากศพมาใช้กับมนุษย์โดยเด็ดขาด
นอกจากนี้ยังมีผลข้างเคียงของการใช้ฮอร์โมนมนุษย์โดยตรง คือบางรายหลังจากได้รับโกรทฮอร์โมนไปแล้วมีอาการผิดปกติทางระบบฮอร์โมนเพศ เช่น ผู้หญิงมีหนวดขึ้น, ผู้ชายมีนมโตขึ้น ฯลฯ ทำให้กระแสความนิยมฉีดโกรทฮอร์โมนจากมนุษย์โดยตรง ถูกยกเลิกไปโดยปริยาย แม้ว่าจะให้ผลการรักษาความรวดเร็วอย่างไรก็ตาม
ในที่สุดนักวิจัยก็ได้หันกลับมาสู่วิถีทางเสิรมสร้างโกรทฮอร์โมนตามธรรมชาติ โดยปัจจุบันพบว่ามีอยู่ 6 แนวทางที่สามารถกระตุ้นต่อมพิทูอิทารี่ให้สร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมนออกมามากขึ้น แต่ละวิธีการล้วนแล้วแต่เราเองสามารถฝึกควบคุม จัดการ ได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้เชี่ยวชาญใดๆ
ทั้ง 6 แนวทางจะมีผลกระตุ้นต่อมไฮโปทาลามัสโดยตรง ต่อมไฮโปทาลามัสดังกล่าวอยู่ใต้สมองใกล้ๆ กับต่อมพิทูอิทารี่และปลดปล่อยฮอร์โมน GHRF ออกไปสั่งการให้ต่อพิทูอิทารี่ผลิตและสร้าง โกรทฮอร์โมนออกมา ตามรูปแผนภูมิหน้าถัดไป
วิธีการทั้ง 6 นี้ ล้วนได้รับการยืนยันทางวิชาการว่าสามารถเพิ่มระดับโกรทฮอร์โมนได้ ยิ่งหากผสมวิธีการทั้ง 6 เข้าด้วยกันอย่างเหมาะสมแล้ว จะยิ่งได้ประสิทธิผลเพิ่มมากขึ้น
แต่ในที่นี้เราคงหันมาขยายความเฉพาะวิธีการที่ 5 คือ การเสริมกรดอะมิโนให้กับร่างกายอย่างพอเพียง เพื่อกระตุ้นการสร้างและหลั่งโกรทฮอร์โมน ปัจจุบันล่าสุดส่วนผสมของกรดอะมิโนที่นิยมใช้กันมากคือ L-Lysine, L-glutamine, L-Glycine, L-Phenylalanine, L-Carnitine, L-Arginine สารชื่อแปลกๆ ยาวๆ เหล่านี้คือชื่อทางเคมีของกรดอะมิโน เราลองมาศึกษาคุณสมบัติและคุณประโยชน์ของกรดอะมิโนกันก่อน
ขยายความรู้เกี่ยวกับกรดอะมิโน (Amino-acid)
เราทราบกันดีว่าโปรตีนเป็นอาหานหมวดสำคัญของร่างกายที่ช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อ , ผิวหนัง , เส้นเอ็น , กระดูกอ่อน , ผม , เล็บ , ขน , ต่อมไร้ท่อ , อวัยวะทั่วร่างกาย , เลือด , น้ำเหลือง , เอ็นไซม์ , ฮอร์โมน ฯลฯ ในร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยโปรตีนมากเป็นอันดับสองรองจากน้ำ ( ร่างกายประกอบด้วยน้ำ 70 %) แต่ร่างกายเราไม่สามารถนำโปรตีนจากอาหารไปใช้ได้โดยตรง เนื่องจากโมเลกุลมีขนาดใหญ่เกินไป จำเป็นต้องย่อยสลายออกไปจนมีคุณสมบัติซึมผ่านเข้าสู่เซลล์ร่างกายเพื่อใช้งานได้ สารที่ถูกย่อยจากโปรตีนจนเล็กที่สุดนี่เอง เรียกว่า กรดอะมิโน ( Amino-acid)
กรดอะมิโนจึงนับเป็นสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมหาศาล ที่จะทำให้
  • ร่างกายเจริญเติบโตทั้งกล้ามเนื้อ, กระดูก, ฟัน, ผม ฯลฯ
  • ระบบประสาททำงานได้, สมองสั่งการได้
  • มีภูมิคุ้มกัน – ภูมชีวิตต้านทางโรคภัยและความเสื่อม
  • ทำให้วิตามินและแร่ธาตุออกฤทธิ์ต่อร่างกายได้
ยกตัวอย่างเช่น หากร่างกายขาดกรดอะมิโนชื่อ Methionine และ Taurine จะทำให้ร่างกายเกิดภาวะภูมิแพ้ หรือตัวอย่างเช่นผู้สูงอายุที่ขาดกรดอะมิโนชื่อ Tyrosine, Phenylalanine, Tryptophan จะทำให้เกิดอาการ ซึมเศร้า หดหู่ เป็นต้น
ในปัจจุบันการศึกษาพบว่ามีกรดอะมิโนประมาณ 28 ชนิด แต่ที่ร่างกายมนุษย์ต้องการใช้มีอยู่ประมาณ 20 ชนิด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีการจัดเรียงโมเลกุลชนิดเวียนซ้าย (Levoform) ซึ่งมีอักษร L- กำกับหน้าชื่อ เช่น L-Glysine, L-Arginine ร่างกายเราสามารถนำกรดอะมิโนทั้ง 20 ชนิดมาต่อเชื่อมเรียงโมเลกุลกัน เพื่อสรรค์สร้างโปรตีนได้มากมายหลายร้อยชนิดแตกต่างกัน เช่น โปรตีนภายในฮอร์โมน , โปรตีนกล้ามเนื้อ , โปรตีนเอ็นไซม์ การสร้างโปรตีนแตกต่างกันได้ก็เพียงอาศัยการจัดเรียงกรดอะมิโนไม่เหมือนกัน , ต่อเชื่อมด้วยตำแหน่งแตกต่างกัน
80% ของปริมาณกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องใช้ ตับสามารถผลิตและสังเคราะห์ขึ้นได้เองภายในร่างกาย
20 % ของปริมาณกรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการใช้ ตับไม่สามารถสร้างได้ และจำเป็นต้องทางอาหารที่อุดมโปรตีนเข้าไปทดแทน เช่น L-Lysnine, L-phenylalanine ดังนั้นผู้ทานอาหารมังสวิรัติ จึงมักพบว่าร่างกายขาด L-Lysine เนื่องจาก L-Lysine ไม่พบในถั่วและธัญญพืช แต่พบในเนื้อปลาเนื้อสัตว์ ไข่ นม เป็นต้น
ขบวนการสร้าง โกรทฮอร์โมนยิ่งต้องการใช้กรดอะมิโนมากขึ้น เพราะโครงสร้างโมเลกุลของโกรทฮอร์โมนคือ “ กรดอะมิโนกว่า 191 ชนิด ” ขณะเดียวกันฮอร์โมนทั้งหลายในร่างกาย เช่น ฮอร์โมนเพศ, ฮอร์โมนจากตับ, ฮอร์โมนจากไต ก็ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนผสมของกรดอะมิโนหลายสิบชนิดไปจนถึงหลายร้อยชนิด ตามความซับซ้อนของหน้าที่ฮอร์โมนหรือเอนไซม์

ส่วนผสมสำคัญๆ ที่ช่วยเสริมต่อมพิทูอิทารี่ให้สร้างโกรทฮอร์โมนได้มีคุณสมบัติแยกพิจารณาเป็นรายตัวดังนี้
ชื่อส่วนประกอบ
ลักษณะโดยทั่วไปและประสิทธิภาพ
คุณประโยชน์ต่อร่างกาย
L-Lysine
แอส - ไลซีน
  • เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ต้องทานอาหารเข้าไปเสริมทดแทน
  • พบในอาหารจำพวกถั่ว, เนื้อหมู, เนื้อปลา, เนื้อสัตว์ปีก, นม
  • ใช้เสริมให้กับผู้ป่วยโรคหวัดและเสริมเพื่อเร่งฟื้นฟูร่างกายให้หายเร็วขึ้น
  • จำเป็นอย่างยิ่งต่อการสร้างโปรตีน
  • เสริมสร้างการเจริญเติบโตของกระดูกและร่างกาย, ช่วยการดูดซึมแคลเซียม
  • ควบคุมระดับไนโตรเจนให้สมดุล
  • เสริมสร้างการผลิตแอนตี้บอดี้ฮอร์โมน, เอ็นไซม์, คอลลาเจน, การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
  • ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ในกระแสเลือด
L-Glutamine
แอล – กลูตามีน
  • มักพบอยู่บริเวณผิวภายนอกของโปรตีนและเอ็นไซม์
  • เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองและพบมากที่สุดในกล้ามเนื้อ
  • ซึมเข้าสู่สมองได้ดีมาก
  • ใช้เสริมอาหารกับนักเพาะกาย นักกีฬา และผู้กำลังจำกัดอาหารลดน้ำหนัก
  • เป็นอาหารหล่อเลี้ยงเซลล์สมองได้ดีมากและช่วยขับถ่ายของเสียออกจากสมอง
  • ควบคุมภาวะกรด/ด่างในเลือด
  • ช่วยรักษาอาการไขข้ออักเสบ, กระเพาะอาหารและลำไส้ผิดปกติ, มะเร็ง, ลมชัก, สมรรถภาพทางเพศเสื่อม, จิตหวาดระแวง
  • ป้องกันการฝ่อลีบตัวของกล้ามเนื้อ
L-Arginine
แอล- อาร์จินีน
  • พบในอาหารพวกข้าวกล้อง, ถั่วลิสง. ข้าวสาลี, ผลองุ่นแห้ง
  • พบได้มากภายในผิวหนังและเนื้อเยื่อภายใต้ผิวหนัง
  • ช่วยกระตุ้นร่างกายสร้างโกทฮอร์โมนเพิ่มขึ้น
  • ช่วยเสริมสร้าง ซ่อมแซมผิวหนัง, กระดูก, เส้นเอ็น, กล้ามเนื้อ
  • ช่วยเร่งการขับถ่ายไนโตรเจนส่วนเกิน ซึ่งเกิดจากโปรตีนออกจากเซลล์
  • ลดไขมัน, เพิ่มกล้ามเนื้อ
  • เร่งตับอ่อนหลั่งอินซูลิน เผาผลาญน้ำตาลในกระแสเลือด
L-Glycine
แอล - ไกลซีน
  • เป็นกรดอะมิโนที่พบมากเป็นอันดับสองในโปรตีนและเอ็นไซม์
  • ช่วยในการสังเคราะห์กรดอะมิโนมากมายหลายชนิด
  • ทำให้ร่างกายโดยรวมมีพลังงานเพิ่มขึ้น
  • จำเป็นต่อการสังเคราะห์กรดอะมิโนตัวอื่นๆ และกรดน้ำดี
  • จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทส่วนกลางและสมอง
  • จำเป็นต่อการสร้าง DNA, RNA และกล้ามเนื้อ
L-Phenlalanine
แอล - เฟนิลอลานีน
  • เป็นกรดอะมิโนที่ร่างกายสังเคราะห์เองไม่ได้ มีคุณสมบัติดูดซับรังสี U.V. ได้ดี
  • จำเป็นต่อการสังเคราะห์กรดอะมิโนอื่นๆ
  • ใช้เสริมการรักษาไขข้ออักเสบ, ซึมเศร้า, ปวดประจำเดือน, ปวดไมเกรน, โรคพาร์คินสัน
  • ช่วยในการสังเคราะห์สารตัวนำสัญญาณจากสมอง 2 ตัวคือ โดปามีน และ นอร์อิพิเนฟฟริน ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้ร่างกายกระฉับกระเฉง, อารมณ์สดชื่น, ลดความปวดเมื่อย, ช่วยความจำ, ลดความอยากอาหาร
L-Carnitine
แอล – คาร์นิทีน
  • มีโครงสร้างและคุณสมบัติต่างไปจากกรดอะมิโน ทั่วไป และไม่ได้ใช้ในขบวนการสังเคราะห์โปรตีนและเอ็นไซม์
  • พบในอาหารจำพวกนม, เนื้อสัตว์
  • ร่างกายสามารถสังเคราะห์จากกรดอะมิโน เช่น ไลซีน และ เมทิโอนีน, วิตามิน B-1, B-6, วิตามิน C
  • มักเสริมให้กับผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัดหัวใจ
  • เสริมฤทธิ์การทำงานของวิตามินซี, อี
  • คนทานมังสวิรัติมักขาดคาร์นิทีน เพราะในผักมีปริมาณไลซีน, เมทิโอนีนน้อยมาก ไม่เพียงพอ
  • เป็นสื่อกลางที่ช่วยเหลือการขนส่งกรดไขมันเข้าสู่เซลล์
  • เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันให้เป็นแหล่งพลังงานจึงช่วยลดไขมันในกล้ามเนื้อหัวใจป้องกันโรคหัวใจ
  • ป้องกันการเกิดไขมันสะสมในตับ เนื่องจากแอลกอฮอลล์, ป้องกันโรคตับแข็ง
  • ลดไขมันในผู้ป่วยเบาหวาน ที่มักจะมีภาวะไขมันเกิน
  • ลดไตรกลีเซอร์ไรด์และไขมันในกระแสเลือด
วิตามินซี
( กรดแอสคอร์บิค )
  • เป็นวิตามินละลายได้ในน้ำ ช่วยสมานแผลให้หายเร็วขึ้น
  • ใช้เสริมการรักษาไขหวัด, เหงือกอักเสบ
  • จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย
  • เสริมประสิทธิภาพการดูดซึมของกรดอะมิโน
  • ช่วยเสริมประสิทธิภาพของพรอสต้าแกลนดินในการขยายหลอดลม ช่วยลดอาการแน่นหน้าอกของผู้ป่วยโรคหืดหอบ
  • ลดปริมาณคลอเรสโตรอล และไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด
  • ต่อต้านและยับยั้งอันตรายจากพิษของยาปฏิชีวนะ, สเตียรอยด์, บุหรี่
วิตามินปี 6
( ไพริดอกซิน- ไฮโดรคลอไรด์ )
  • มีการขนานนามว่าเป็นวิตามินแห่งชีวิต เพราะจำเป็นต่อเลือดและเส้นเลือด
  • เกี่ยวข้องในปฏิกิริยาเอ็นไซม์มากกว่า 60 ชนิด ในขบวนการสังเคราะห์กรด
  • อะมิโนและกรดไขมันภายในร่างกาย
  • จำ เป็นต่อการย่อยแปรสภาพโปรตีนภายในอาหารให้กลายเป็นกรดอะมิโน
  • ช่วยเสริมสร้างความสมดุลของปริมาณเกลือแร่ โปรตัสเซียม , โซเดียมที่จำเป็นต่อระบบการสั่งงานของประสาทและสมอง
Beta-Carotine
( วิตามิน A)
  • ทราบกันมานานว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยเพิ่มการมองเห็นตอนกลางคืน
  • ด่านแรกในการป้องกันการรุกรานของเชื้อโรคและสารพิษ และเสริมภูมิต้านทานของร่างกาย
  • จำ เป็นต่อการเสริมสร้างกระดูก , ฟัน , เนื้อเยื่อ
  • กำจัดอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี
  • สริมประสิทธิภาพการดูดซึมของกรดอะมิโน
  • เบต้าคาโรทีนเป็นโภชนาหารที่จำเป็นต่อเซลล์